วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559

มูนมังอุบล คนน้ำยืน

วิถีชีวิตอีสาน
วิถีชีวิตการ "อยู่" "กิน" คนถิ่นอีสาน
ที่สืบสานเกินกว่าจะบรรยายให้เห็น
ตลอดเช้าสายบ่ายจนคล้อยเย็น
ชี้ชัดเจนเห็นวัฒนธรรม
ตื่นเช้ารีบลุกผุดออกจากบ้าน
จับ"แห" "มอง" "ข้อง" ที่สานสู่ธารไหล
ต่าง "ทอด" "ดัก" กุ้งปูปลาคละกันไป
มา "ต้ม" "คั่ว" แบ่งเพื่อนบ้านได้สามัคคี
ตอนสายหน่อยเด็กน้อยปล่อยควายเลี้ยง
ฟังสำเนียง "นก" "หนู" "กะปอม" ม่วนอีหลี
จับมา "ปิ้ง" "จี่" "หมก" "ก้อย" อร่อยดี
ตัว "พีพี" แบ่งกลับบ้านทานตอนเย็น
เหล่าหนุ่มสาวต่างมุ่งหน้าสู่ผืนนาใหญ่
ชายแบกไถ หญิงหาบคอน ไม่ยากเข็ญ
เปลี่ยนผืนนาด้วยแรงใจไม่ลำเค็ญ
เพราะนี่เป็นวิถีชีวิตสืบสานมา
ตั้งแต่…….กาลนานเท่าไหร่ใครใคร่รู้
แต่ต้องสู้กับธรรมชาติอันแห้งผ่า
ดินปนทรายอันแห้งแล้งตลอดกาลเวลา
ไม่เคยคร้านแม้จวนชีวาขั้นบั้นปลาย
เหล่าตายาย พ่อแม่ แกอยู่บ้าน
เร่งจักตอกไผ่สาน "คุ" "กระบุง" "ตะกร้า" ใหญ่
บางคน "ต่ำหูก" "สานแห" "มอง" "สวิง" "ไซ"
บ้าง"สาวไหม""เลี้ยงหม่อน"ยามผ่อนคุยครื้นเครง
ถึงบ่ายคล้อยสาวหนุ่มเด็กน้อยต้อนควายกลับบ้าน
เสียงกังวาน "โปง""ขอ" แขวนคอควายกระฉับกระเฉง
ร้อง "หมอลำ" เป่า "แคน" บ้าง ตะเบ็ง
เป็นท่วงดนตรีทำนองเพลงสะท้อนไกล
ยามคราวดึก สาว "ปั่นฝ้าย" ฝ่ายชายเกี้ยว
ผู้ใหญ่เที่ยวเป่าแคน "แต่ แล่น แต่"สลับเสียงใส
"ตะแล้กแต้กแต้ก"กระเดื่องต่ำข้าว กราวเสียงไกล
สนุกน้ำใจคราสายัณห์ ยามวิกาล
ต่างครอบครัวเป็นรั้วเกื้อเครือญาติ
น้ำใจไมตรีไม่มีขาดสมัครสมาน
เป็นอย่างนี้อยู่อย่างนี้ตลอดกาลนาน
ตราบชั่วกัปชั่วกัลป์นิรันดร

……..
อิสระ ชีวา
กลุ่มวรรณกรรมอีสานใต้-น้ำยืน








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น