วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี




มกราคม ๒๕๕๙ จ่าสิบเอกเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอน้ำยืนได้ปรึกษาหารือในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือน ว่า ขณะนี้อำเภอน้ำยืน ยังไม่มีพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาจะประกอบพิธีวางพวงมานลาถวายบังคมในวันที่ ๒๓ ตุลาคมของทุกปี ต้องอัญเชิญพระบรมรูปหรือพระบรมฉายาลักษณ์ มาประดิษฐานเพื่อประกอบพิธี ซึ่งมติที่ประชุมเห็นชอบร่วมกัน
          วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ อำเภอเชิญหัวหน้าส่วนราชการประชุมเพื่อหารือในรายละเอียดการก่อสร้าง และได้แต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ เพื่อรับผิดชอบดำเนินการโดยได้กำหนดแนวทางร่วมกันไว้เป็น ๓ ระยะ คือ
          ระยะที่ ๑ ระดมทุนจากทุกภาคส่วน และทำการก่อสร้างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พร้อมจัดสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
          ระยะที่ ๒ อัญเชิญพระบรมรูปขึ้นประดิษฐานบนแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์ หลังจากการดำเนินการตามระยะที่ ๑ เสร็จสิ้นแล้ว
          ระยะที่ ๓ ปรับพื้นที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ และบริเวณด้านหน้า จัดทำเป็นลานคอนกรีตให้มีพื้นที่ในการประกอบพิธีในวันที่ ๒๓ ตุลาคม และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะมากราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ในโอกาสต่อไป

 (นายสุรัตน์ อวยพรส่ง ปลัดอำเภอน้ำยืน (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอน้ำยืน ประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ประดิษฐานบนแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์)


 จากการดำเนินงานระยะที่ ๑ สามารถระดมทุนทรัพย์ได้เบื้องต้น โดยได้จากการบริจาคของส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ๓๐,๐๐๐ บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) จากภาคเอกชนจำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท (หกหมื่นบาทถ้วน) ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนชนทุกหมู่บ้าน จำนวน ๑๓๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนสามหมื่นบาทถ้วน)  และจากกองทุนวันปิยมหาราชอำเภอน้ำยืน จำนวน ๑๑๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๓๐,๐๐๐ บาท (สามแสนสามหมื่นบาทถ้วน)
          คณะกรรมการส่วนที่รับผิดชอบในการก่อสร้าง ได้เริ่มทำการก่อสร้างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ และปรับพื้นที่บริเวณโดยรอบ อำเภอน้ำยืน ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันอังคารที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ทั้งพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์
          พิธีสงฆ์ ได้นิมนต์พระครูวิชัยธรรมานันท์ เจ้าคณะอำเภอน้ำยืน (ธ)พระครูศรีธรรมโสภิต เจ้าคณะอำเภอน้ำยืน (มหานิกาย) พร้อมพระสงฆ์สมณศักดิ์ รวม ๙ รูป โดยมีนายอ่อนจันทร์ เสนาพันธ์ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอน้ำยืน นำประกอบพิธีสงฆ์
          พิธีพราหมณ์ ได้เชิญ พราหมณ์สมนึก เขียวอ่อน และผู้ช่วยพราหมณ์ นำประกอบพิธีพราหมณ์
          นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานในพิธี จ่าสิบเอกเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอน้ำยืน กล่าวรายงาน นายชมเชย ทองชุม ทำหน้าที่เป็นพิธีกร
          ผู้มีเกียรติที่ร่วมในพิธีประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา ตำรวจ ทหาร ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน รวม ๓๐๐ คน


(พิธีอัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย พราหมณ์สมนึก เขียวอ่อน)

จนบัดนี้ ฝ่ายก่อสร้างฐานพระบรมราชานุสาวรีย์  แจ้งว่าได้ก่อสร้างและปรับปรุงบริเวณโดยรอบมั่นคงแข็งแรงเหมาะสมแล้ว ส่วนที่ยังไม่เรียบร้อยก็จะดำเนินการควบคู่กันไป ประกอบกับผู้รับจ้างหล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ส่งมอบงานแล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลและเหมาะสมตามกาลเวลา อำเภอน้ำยืน จึงได้กำหนดเอาวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๐๐ น. – ๑๑.๐๐ น. ประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานบนฐานพระบรมราชานุสาวรีย์  เป็นเบื้องต้นก่อน    

วันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๙  เวลา ๐๙.๐๐ น. นายสุรัตน์ อวยพรส่ง ปลัดอำเภอน้ำยืน (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอน้ำยืน ประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานบนแท่นพระบรมราชานุสาวรีย์  และจะพิจารณาประกอบพิธีเปิด พระบรมราชานุสาวรีย์ อย่างเป็นทางการในโอกาสต่อไป


 พิธีบวงสรวง 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น