วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การส่อนขวัญ

 

 

พิธีส่อนขวัญ จะทำขึ้นในยามที่มีคนได้รับความเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ เช่น รถชน ป่วยเป็นโรคร้ายแรง ชาวอำเภอน้ำยืน เชื่อว่า ว่าเมื่อบุคคลใดประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บไข้ได้ป่วยจะทำให้ตกใจ ผวา ทำให้ขวัญหนี หรือเมื่อหายป่วยแล้วจะมีอาการซึมเซา ไม่สดชื่นแจ่มใส เหมือนคนปกติ จึงมีการทำพิธีส่อนขวัญโดยผู้เฒ่าผู้แก่จะทำพิธีนี้เพื่อส่อนขวัญคนป่วยให้กลับคืนสู่ร่างกายของผู้ป่วย เพื่อให้มี อาการดีขึ้น ชาวอีสานบางคนกล่าวว่า หากไม่ไม่ทำพิธีส่อนขวัญคนป่วยกลับคืนมา อาการของผู้ป่วยจะหนักมากกว่าเดิม แม้อาการทางร่างกายจะ ดีขึ้นแต่อาการทางจิตใจของผู้ป่วยจะทรุดหนักลงกว่าเดิม
                    
ส่อน หมายถึง ตักเอา ช้อนเอา เมื่อผู้ใดประสบอุบัติเหตุ เช่น ตกจากที่สูง โค กระบือชนก็จะเสียขวัญหรือขวัญเสียความตกใจกลัวยังไม่หายไป เวลานอนก็จะสะดุ้งหรือละเมออยู่ทำให้พ่อแม่และญาติพี่น้องเกิดความสงสาร จึงจัดทำพิธีส่อนขวัญให้แก่ผู้ได้รับอุบัติเหตุเพื่อเป็นการบำรุงขวัญ 
สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการทำพิธีก็จะมี สวิง ใช้ในการส่อนขวัญ ขันธ์ ๕ เพื่อขอสมาแก่เจ้าแม่ธรณี หมากพลู บุหรี่ ข้าวเหนียวหนึ่งปั้น จะนำไปให้ผี ไข่ไก่ ที่ต้มสุกหนึ่งฟอง ข้าวต้ม ฝ้ายใช้สำหรับผูกแขน ของหวาน ดอกไม้ และ เสื้อผ้าของผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ ๑ ชุด
                
เมื่อเตรียมสิ่งของต่าง ๆ พร้อมแล้วนำไปใส่ไว้ในสวิง ให้ผู้อาวุโสซึ่งอาจเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ของผู้ประสบอุบัติเหตุคนใดคนหนึ่งก็ได้ยกสวิงที่บรรจุเครื่องส่อนขวัญไว้แล้วไปยังบริเวณที่เกิดเหตุยืนอยู่สักครู่ยกของขึ้นกล่าวว่า เจ้าแม่ธรณีเจ้าที่เจ้าทางแห่งนี้เอย วันนี้เวลา...(นาย/นาง/เด็กชาย/เด็กหญิง)...ได้มาประสบอุบัติเหตุ ณ ที่แห่งนี้ขณะนี้ยังเจ็บป่วยอยู่จึงได้มาส่อนเอาขวัญของ...ที่ยังตกค้างอยู่ ณ ที่แห่งนี้กลับคืนไปอยู่กับเนื้อกับตัวของเขา จากนั้นก็ใช้มือสองมือจับสวิงตักไปมาพร้อมกับพูดว่า ขอให้ผู้ป่วยจงหายเจ็บป่วยโดยเร็ว การใดที่ผู้ป่วยล่วงเกิน พระแม่ธรณี และเจ้าที่เจ้าทางก็ขออโหสิกรรมด้วย ขณะทำกาข้อนครั้งที่หนึ่งผู้ช้อนจะพูดว่า " มาเด้อขวัญเอ้ย " ช้อนครั้งที่สองจะพูดว่า " มาเด้อขวัญเอ้ย " พอมาถึงครั้งที่สาม คนล้อมจะพูดว่า " เข้าหรือยัง " คนช้อนก็จะตอบว่า " เข้าแล้ว " จากนั้นก็จะมีคนมารวบสวิงแล้วนำผ้ามาคลุมแล้วนำกลับบ้านของผู้ป่วย  (ห้ามแวะที่อื่น) ในขณะนี้บรรดาญาติของผู้ป่วยอีกกลุ่มหนึ่งรออยู่บ้านผู้ป่วยเพื่อรับขวัญ



 เมื่อไปถึงบ้านผู้ป่วยญาติผู้รอรับก็จะรับเอาสวิงที่บรรจุสิ่งของนั้นไปแตะที่ตัวผู้ป่วย ผู้ไปส่อนขวัญและบรรดาญาติจะพูดพร้อม ๆ กันว่า เออ...ขวัญเจ้าได้คืนมาอยู่กับเนื้อกับตัวเจ้าแล้ว ขวัญเอยมาเดอ...ขอห้าหายป่วยหายเคราะห์โดยเร็ว จากนั้นก็วางสวิงหรือห่อผ้าลงที่พื้น หยิบเอาสิ่งของออกมา เสื้อผ้าถ้าสวมใส่ได้ก็ใส่เลย ถ้าใส่ไม่ได้เพราะป่วยหนักก็วางไว้ข้าง ๆ คนเฒ่าคนแก่คนหนึ่งเอาข้าวเหนียวนึ่ง ไข่ไก่ต้ม ข้าวต้ม และขนมใส่มือผู้ป่วย ผูกแขนเรียกขวัญผู้ป่วยให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว โดยให้คนที่เอาสวิงหรือนำขวัญมาผูกก่อน บรรดาญาติก็ทยอยเข้ามาผูกข้อมือจนหมดทุกคนโดยจะอวยพรให้คนป่วยหายและประสบแต่สิ่งดีๆ เป็นอันเสร็จพิธีการส่อนขวัญ
คำสูตรผูกแขนเส้นที่ ๑
       ศรีๆ ชัยยะวิเศษ ฝ้ายแก้เกิดเมืองสวรรค์ ปันกันมาทุกแห่ง อิ้วแล้วดีดแต่งเป็นผงเป็นใยยาวยวงแลนอ่อนค่าบ่ผ่อนใสแสง ฝ้ายนี้เป็นของแพงอันประเสริฐ บัดนี้ข่อยจักผูกแขนซ้ายให้เจ้าได้กินหมื่นนา บัดนี้ข่อยจักผูกแขนขวาให้เจ้าได้หมื่นบ้าน ก้อนคำล้านให้เจ้าค่อยอยู่ดีเยอ ขวัญหัวเอ๋ย เจ้าอย่าได้ไปอยู่ในดิน และหย่อมหญ้า ขวัญเจ้าเอ๋ย เจ้าอย่าได้ไปอยู่ฝากอะกะนิฏฐา ให้เจ้ามาอยู่เฮือนดอมเจ้า ฮ้อยขวบเข้าอย่าได้หนี ให้เจ้านอนหลับดี อยู่ในฮ่องประเทศเฮือนตน สมบัติมีมวลมีทั้งแหวนคำอันสุบก้อย เครื่องน้อยสร้อยสังวาล สัพประการปิ่นเกล้า ให้เจ้าได้อยู่สร้างแทนเฮือน ให้เจ้าหมั่นยิ่งกว่าก้อนผาแฮ่น ให้เจ้าหมั่นยิ่งกว่าแก่นผาจวง ให้เจ้าหมั่นยิ่งกว่าเขาไกลลาด ให้เจ้าหมั้นยิ่งกว่าราหุลราชเข้าสุญตะวันให้เจ้าหมั่นกว่าสวรรค์ฟากฟ้า ให้เจ้าหน้าฮุ่งเฮืองงาม ให้คิ้วเจ้าแดง เหมือนดังกองแก้วมณีโชติ โทษฮ้ายอย่ามาพาล มารฮ้ายอย่ามาเบียด อย่าแฝดฮ้าย อย่าเข้าในเนื้อในคีงเจ้าเด้อ

คำเบิกเคราะห์คนป่วย
       มีผีฮ้าย กวดหนี เสียมื่อนี้วันนี้ ขึ้นโคกต้องผีโป่งลงถ่งต้องผีคุณกวดหนี เสียมื่อนี้วันนี้ เคราะห์มื่อเย็นเข็ญมื่อเช้าก็หนีมื่อนี้วันนี้ เข็ญหลวงหนีพอฮ้อย เข็ญน้อยหนีพอพันก็ให้หนีวันนี้ เคราะห์ปีผีป้อน เคราะห์วันผีแต่ง ไม้สะรกงกมันฮู้ต้องแขง ไม้สะแหล่งแหงงมันฮู้ต้องตีน มือไม่กลืนกือ มันฮู้ปักตูมค้อง ไม่สล้องคล้องมันฮู้เกาะปายตีน ก็ให้หนีมื้อนี้วันนี้ เคราะห์ตัวน้อยๆเคราะห์ตัวฮีๆ เคราะห์เป็นเข็นตัวท่อแม่ไก่ เคราะห์ตัวใหญ่ ๆ โตท่อแม่ควาย เคราะห์หลาย ๆ ตัวท่อหอยปัง ก็ให้หนีเสียมื้อนี้วันนี้ เคราะห์จังงังแม่กำเลิศ ก็ให้หนีไปเกิงก้ำฝ่ายปายตีนลี้ผี หนีมื้อตะวันตกนกเจานอนดอนสาวอยฤหมู่สาวหลาย ก็ให้สู่หนีไปตายบ้านเกิด ไปเกิดก้ำฝ่ายไต้เมืองห่อจินจาบพู้นเยอ...หนีตะวันตกนกน้อยนอน ภูเขาข้ามน้ำเขาเขียว ผีเหลียวมาให้ตาผีแตก ไม้ค้อนเท่าพยาอินทร์กูสิแดกตาผีตาย อมสิทธิการ อาจาย พ่อหมดสิทธิให้แล้วนี้ กูจักเบิกช้างตัวฟัง กูจักเบิกวันนี้ คนชังข้าเชิกเต้ากูจักเบิกวันนี้ กูจักเบิกหมาดำหมาแดง แห้งกินเลื้อด กูจักเบิกวันนี้ กูจักเบิกบักสามฆ่าคนน้อย กูจักเบิกบักพอกพ้อยใส่ครูหนังสิว กูจักเบิกวันนี้ กูจักเบิกน้ำขังอยู่ในท้อง กูจักเบิดธระธีสาร กูจักเบิกซะวายไปหลวงโดยละงับภัยระงับจังไรระวับ สะหายยะ,

คำผูกแขน
       มาเด้อขวัญเอ่ย.......ให้เจ้ามาอยู่หมั่นเหมือนดังภูเขา ให้เจ้ายืนคือหินหมื่นกือกองล้น ให้เจ้าเย็นคือน้ำอันมาสระใหญ่พ่อเด้อ.....ให้มันไหลอยู่เลื่อย ๆ กระแสน้ำเวิ้งวัง ธาตุสี่ตั้งเที่ยงในขัน ปัฎฐวีเตโชให้เที่ยวชั้นขันธ์ห้าวาโยต้องเย็นคิงอยู่เนื่อง ๆ ให้ไหลอยู่เลื่อย ๆ คิงเจ้านั้นให้อยู่เย็นพ่อเด้อ....... นอนหลับให้เจ้าได้เงินพัน นอนฝันให้เจ้าได้เงินหมื่น นอนตื่นให้เจ้าได้เงินแสน แบมือไปให้เจ้าได้แก้วมะณีโชติ โทษฮ้ายอย่ามาพาน มารฮ้ายอย่ามาผ่าให้เจ้าสุขขีล้นยืนหมั่นหมื่นปี เด้อ....... (จบ)

คำผูกแขนหลาน
       หลายอ่อนน้อยหน่วยนาดชายเดียว เจ้าอย่าเนาไพรเขียวป่าไพรแกมเนื้อ เจ้าอย่าเอื้อในไพรกลางป่าขวัญอ่อนหล่านางน้อยให้อยู่เฮือน มีเทิ่งอาหารล้นเต็มพาเหลือมาก มีทั้งเหมี่ยกหมากพร้อมเต็มเต้าอยู่ซู่ขัน มีทั้งพวงขันก้ำเดียระดาษ มีทั้งฉิมหาราชเจ้าสิมาไว้ถ่าผูกแขน มีหลายประเภทเจ้าสิมาเข่าเพิ่งใฮ่ขอให้เจ้าได้ผาบแพรฝูงหมู่องค์มาร สมภารมีเกิ่งสวรรค์อยู่เทิ้งฟ้า ขอให้เจ้ามีฤทธิที่กล้าคือพระจันทร์เพ็ญมือสิบห้าค่ำ ขอให้เพิ่นล้ำได้ใสเหลื่อมดังพระจันทร์ พอว่าแล้วพ่อซิผูกแขนหลาน แหวนทำมะโรงสิใส่มือสวมกล้อย สอยวอยหน้าชายงามขึ้นไหม่พ่อแจมเจ้าซิค่อยถ้าผูกแขนเจ้าแหล่ว,

คำผูกแขนเอิ้นขวัญ คำที่ ๑
มาเยอขวัญเอ๋ย...มาอยู่คิงในเนื้อขวัญแพรและขวัญเสื้อหมดเครือฮอดสิ่น ขวัญที่นอนบอนมุ่งให้มาพร้อมพร่ำเชิญ ขวัญนางเดินนางย้ายหมดกายขู่ซู่ฝ่าย ขวัญนางย้ายยางข้ามเขากว้างให้ล่วงมา ขวัญขาและขวัญเท้าหมดเลาฮอดน้องแข่ง ขวัญทุกแห่งใหลพร้อมล้มต้องแต่ห้องหลัง ขวัญดังและขวัญหน้าขวัญตาและขวัญปาก ขวัญเจ้าพัดพรากเข่าเขากว้างให้ล่วงมา ขวัญเจ้าชลทาให้ในเขาหาลูกอ่อน ขวัญเจ้าล้มพาดก้อนหินล้านแผ่นทะลาน ขวัญเจ้าลงไปเล่นภายสารแกมหมู่ข่าง ขวัญเจ้าย้ายหมู่ช้างสือฮ้ายอยู่ว่างดอย ขวัญเจ้าไปหาหม่นขุดกอยมันอยู่ในเหล่า ขวัญเจ้าย้านนกค้าหลงถิ่มกระตามัน ขวัญเจ้าเดินผัดฝ่ายไปมาดอกอิดอ่อน ขวัญเจ้านอนอยู่ค้างกลางด้าวให้ต่าวมา มาเด้อ.............เอ่ย.........มาเด้อขวัญ.........เอ่ย,


 คำผูกแขนเอิ้นขวัญ คำที่ ๒

มาเยอขวัญเอ๋ย.............ขวัญเจ้าอย่าได้ไปอยู่ชั้นในป่าดงฮก ขวัญเจ้าอย่าได้เดินไกลป่าไพรกว้าง ขวัญเจ้าได้ไปหลงง้วงเทิ่งภูให้เจ้ารู่มาเด้อ เชิญเอาขวัญนาถน้องให้วนค้อยต่าวมา ขวัญเจ้าอย่าได้ไปอยู่ค้างกลางเหล่าแกมหมู่กา ขวัญเจ้าอย่าได้ไปอยู่ค้างกลางนาแกมหมู่เขียดให้คนมาบียดเจ้าองค์ล้ำหนอพยา เพิ่นได้แต่งคบถ่ามีอยูหลายประการ มีหมู่เงินคำแก้วมีหลายแนวครองถ้า อาพรผืนแพ่นมีทั้งแหวนใส่กล้อยกระจอนต้างโค่งคำ เชิญจ้ามาส่วมสร้อยสังวารคล้องใส่ มีทั้งผ้าสะใบแผ่นผืนแพรพร้อม..คู่สู่แนว.......มาเด้อ....................เอ่ย,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น